การวัดด้านพุฒิพิสัย(Cognitive Domain)
การวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย จะใช้ข้อสอบเป็นเครื่องมือในการวัด ซึ่งรูปแบบชองข้อสอบจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการวัด
ข้อสอบสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
1.ให้ตอบโดยอิสระ
2. จำกัดคำตอบ
3. ตอบตามโครงสร้างที่กำหนด
โดยอาศัยหลักเกณฑ์ง่ายๆ 4 ประการ ในการประกอบการตัดสินใจเลือกใช้ข้อสอบ
1. ดูว่าผลการเรียนที่ต้องการวัดอยู่ระดับใด
2.ดูว่าผลสอบจะเอาไปใช้อะไร
3. ดูว่าเด็กที่สอบมีลักษณะอย่างไร
4. ดูเวลาที่ใช้ในการสร้าง ดำเนินการสอน และการตรวจให้คะเเนน
ข้อสอบ มีอยู่ 5 ชนิด ดังนี้
บลูมเเละคณะ ได้เเบ่งพฤติกรรมทางพุทธิพิสัยออกเป็น 6 ขั้น โดยเรียงจากพฤติกรรมต่ำสุดถึงสูงสุด คือ
ด้านความรู้ความจำ = ถามเพื่อวัดให้ระลึกถึงสิ่งต่างๆ การจำประสบการณ์จากการสอนจากการบอกเล่า จากตำรา
ด้านความเข้าใจ = คำถามจะไม่ถามตรงจากตำราหรือสิ่งที่ที่สอนไว้แต่โยงความรู้ที่เรียนมาสัมพันธ์กับคำถามแล้วเปลี่ยนเป็นคำตอบใหม่
ด้านการนำไปใช้ = ถามเพื่อวัดความสามารถในการนำเอาความรู้ ความเข้าใจ มาประยุกต์ใช้หรือแก้ปัญหา ในเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใหม่
ด้านการวิเคราะห์ = ถามเพื่อวัดความสามารถในการแยกแยะหรือแจกแจงรายละเอียดของเรื่องราว ความคิด การปฏิบัติ ออกเป็นส่วนย่อยๆ โดยอาศัยหลักการหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง
ด้านการสังเคราะห์ =ถามเพื่อวัดความสามารถในการรวบรวมและผสมผสานรายละเอียดปลีกย่อยของข้อมูล มาสาร้างเป็นสิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม
ด้านการประเมินค่า = ถามเพื่อวัดความสามารถในการสรุปคุณค่าหรือตีราคาเกี่ยวกับเรื่องราว ความคิด พฤติกรรม ว่า ดี - เลว , เหมาะ
ตัวอย่างข้อสอบการวัดด้านพุทธิพิสัย
1. ด้านความรู้ความจำ
1.1 วันลอยกระทงตรงกับข้อใด
ก.15 ค่ำ เดือน 9
ข. 15 ค่ำ เดือน 10
ค. 15 ค่ำ เดือน 11
ง. 15 ค่ำ เดือน 12
ตอบ ง. 15 ค่ำ เดือน 12
2. ด้านความเข้าใจ
2.1 ลูกที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร
ก. มะขิดชอบเที่ยวกลางคืน
ข.มะเฟืองชอบโดดเรียนไปห้องสมุด
ค.มะเดี่ยวทำงานบ้านช่วยพ่อเเม่
ง.มะปรางขโมยเงินเเม่เป็นประจำ
ตอบ ค.มะเดี่ยวทำงานบ้านช่วยพ่อเเม่
3. ด้านการนำไปใช้
3.1 ในการทำแกงพะเเนงหมู หากไม่มีกะทิเราจะสามารถใช้สิ่งใดทดเเทนได้
ก. นมสด
ข.น้ำมะพร้าว
ค.แป้งมันสำปะหลัง
ง.น้ำตาล
ตอบ ก. นมสด
4. ด้านการวิเคราะห์
4.1 "เมื่อชีวิต ผิดหวัง อย่านั่งท้อ
จงรีบต่อ สู้เถิด จะเกิดผล
ผิดเป็นครู รู้เเก้ ให้เเก่ตน
เกิดเป็นคน คิดต่อสู้ จะอยู่ดี
วัดนาครินทร์"
กลอนบทนี้ผู้เเต่งต้องการสื่อถึงสิ่งใด
ก.คนเราต้องประหยัดอดออม
ข.เกิดเป็นคนต้องไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ค.เกิดเป็นคนต้องหมั่นทำความดี
ง. เกิดเป็นคนต้องศึกษาหาความรู้
ตอบ ข.เกิดเป็นคนต้องไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
5. ด้านการสังเคราะห์
5.1 มะขิดเป็นคนเก่ง เพราะตั้งใจเรียน สรุปว่า
ก.คนเก่งต้องตั้งใจเรียน
ข. เมื่อตั้งใจเรียนจะเป็นคนเก่ง
ค.คนที่ตั้งใจเรียนเป็นคนเก่ง
ง. ถ้ามะขิดตั้วใจเรียนจะเป็นคนเก่ง
ตอบ ข. เมื่อตั้งใจเรียนจะเป็นคนเก่ง
6.ด้านการประเมินค่า
6.1 ประเพณีลอยกระทงดีหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. ไม่ดี เพราะ เป็นความงมงาย
ข. ไม่ดี เพราะ เสียเวลา
ค. ดี เพราะ มีผลทางใจ
ง. ดี เพราะ น้ำจะได้ใสสะอาด
ตอบ ค. ดี เพราะ มีผลทางใจ